เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๕ ก.ย. ๒๕๔๕

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๔๕
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

มันรักษาสุขภาพกายสุขภาพใจไง ถ้ารักษาสุขภาพกายก็รักษาสุขภาพกายไว้เพื่อประพฤติปฏิบัติ เพื่อรักษาสุขภาพใจ ถ้าสุขภาพใจรักษาได้นะ ถ้าเราไม่รักษาสุขภาพใจมันก็เท่านั้นล่ะ รักษาสุขภาพกาย รักษาขนาดไหนมันก็เปลี่ยนไป แต่ใจมันแปลกนะ ใจมันตายแล้วมันไม่เคยตาย มันหมุนเวียนตายเวียนเกิด ถ้ารักษาสุขภาพใจได้มันมีวันที่สิ้นสุด

อย่างการศึกษาเล่าเรียน เห็นไหม เรียนตลอดชีวิต เราศึกษาเราเล่าเรียนกันตลอดชีวิต ต้องเรียนกันตลอดชีวิตเลย เพื่อศึกษา เพื่อให้มันเข้าใจ แล้วเราก็ไม่เข้าใจเรื่องของโลกทั้งหมด เรื่องของโลกยังมีสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่เราต้องแสวงหาอีกมากมายเลย เพียงแต่ว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องไปรู้มันก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้ สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องไปรู้มันเรื่องอย่างนั้น เรื่องของวิชาชีพของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ความเห็นของโลกแตกต่างกันไป นั้นศึกษากันไป ศึกษาเรื่องของโลกถ้าจะศึกษากันตลอดชีวิต ไม่มีวันที่สิ้นสุด ไม่มีวันจบ เรื่องของโลกจะไม่มีวันจบเลย

แต่เรื่องของการศึกษาใจมันจะจบได้ ถ้ามันจบได้นี่มันทำให้เราสิ้นสุดกระบวนการ เสร็จงานไง เราเสร็จงาน ทำงานดูสิ เราทำงานไม่เสร็จ งานค้างคาอยู่ก็เป็นห่วง ห่วงหน้าพะวงหลัง ต้องคอยทำงานรักษางานนั้นให้จบ ให้สิ้น ให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องทำตลอดไป ค้างไว้ก็มาทำต่อไป ๆ เรื่องของโลกเป็นแบบนั้น เป็นการทำต่อไป ๆ

แต่มันก็เป็นความจำเป็นอันหนึ่ง เวลาแสดงธรรมต้องแสดงธรรมอย่างนี้ แสดงธรรมให้เห็นคุณค่าว่าสิ่งใดมีคุณค่ามากกว่ากัน สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่ามันเป็นประโยชน์มากกว่า แต่มีคุณค่าขนาดมีคุณค่าน้อยกว่ามันก็ความจำเป็นของร่างกายต้องใช้สอยไป ไอ้ความจำเป็นใช้สอยนี้เห็นเป็นประโยชน์ต้องจำเป็นใช้สอย เราต้องแสวงหา ที่ว่าคนเราต้องมีหน้าที่การงาน งานของคนเรานี่แล้วแต่บุคคลที่ว่าจะทำเพื่อใคร ทำเพื่อร่างกาย ทำเพื่อเรา เพื่อแสวง เพื่อทางโลกเขา โลกเขามันก็อาศัยกันชั่วคราว ชั่วชีวิตนี้เท่านั้น

ถ้าเราศึกษาถึงว่าเราทำเพื่อใจของเรา ใจของเรามันจะอาศัยสิ่งนี้ตลอดไป นี่บุญกุศลเข้าฝังใจไป มันเกิดตามบุญกุศลไง บุญกุศลพาเกิดดีพาเกิดมีวาสนา อำนาจวาสนาของคน คนเราพยายามแสวงหาอำนาจวาสนา แสวงหาความจริงของใจ เพื่อให้ความจริงของใจนี้เป็นปรากฏมากับเรา แต่มันแสวงหาไม่เจอ เพราะมันทำยาก

สิ่งที่ทำยาก เห็นไหม ทำได้ยากมาก ยากเพราะอะไร? เพราะมันเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อน มันลึกลับซับซ้อนมันถึงให้คุณค่ามาก สิ่งที่ทำได้ยากก็ให้คุณค่าได้มาก งานที่ทำได้ยาก งานที่ทำได้ง่ายใคร ๆ ก็แบกอาสาทำกันได้ เพราะมันทำได้ง่าย แต่งานทำได้ยาก งานทำได้ยากเพราะมันจำเป็นต้องพยายามฝึกฝนตนเอง ดัดแปลงตนเอง เอาชนะใจของตัวเอง

สิ่งใดอยาก เห็นไหม หลวงปู่หล้าธุดงค์กรรมฐานอยู่ในป่า บิณฑบาตมามันก็ไม่ค่อยได้อะไรอยู่แล้ว ได้อะไรสิ่งที่มันถูกใจมาน่ะโยนเข้าป่าหมด คือว่าฝืนใจตัวเองไง ทั้ง ๆ ที่ทุกคนไม่มีความอยากเหรอ? ทุกคนก็มีความอยากมีความต้องการกันทุกคน แต่ทำไมต้องฝืนตัวเองล่ะ ฝืนตัวเองเพื่อจะรักษา เพื่อจะให้เห็นว่าการฝืนตัวเองแล้วเราชนะตนเองไหม? ถ้าเราชนะตนเองขึ้นไป ชนะแต่สิ่งที่หยาบ ๆ ขึ้นมา ชนะสิ่งที่มันต้องการ ถ้ามันต้องการเราฝืน เราไม่ให้มัน ไม่ให้ความต้องการกับมัน มันก็สงบตัวลง ๆ เพราะมันรู้ว่ามันฝืนก็ไม่ได้

แต่เราเป็นคนอ่อนแอ ถ้ามันต้องการสิ่งใดเราก็หาให้มัน เราก็ต้องวิ่งเต้นหาให้มัน เราก็จะเป็นทาสมันตลอดไป เป็นทาสความคิดตลอดไป ปัจจัยเครื่องอยู่อาศัยนี้อาศัยกันไปชั่วชีวิตนี้เท่านั้น สิ่งนี้อาศัยเท่านั้น จะมีมากมีน้อยเราก็ใช้สอยเฉพาะตัวของเราเอง บ้านเรือนใหญ่โตขนาดไหน ห้องนอนเราก็แค่ห้องเดียว แค่นั้นเท่านั้นเอง สิ่งที่ใหญ่โตก็เป็นภาระรับผิดชอบไป สิ่งนี้มันเป็นเรื่องของโลก เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงบอกไงว่า “ทางคฤหัสถ์เขากินเพื่อกาม กินเพื่อเกียรติ กินเพื่อศักดิ์ศรี”

แต่สมณะเรานี่กินเพื่อดำรงชีวิตอยู่เฉย ๆ อย่างกินเพื่อกาม เราไม่ต้องกินเพื่อกาม ไม่ได้กินเพื่อเกียรติ ไม่ได้กินเพื่ออย่างนั้น การแสวงหาของเราไม่ต้องเป็นแบบนั้น แต่โลกของเขาเป็นแบบนั้น เพื่อแสวงหากัน เพื่อเกียรติของเขา เพื่อศักดิ์ศรีของเขา เขาต้องแสวงหามาเพื่อกิเลส เพื่อความเป็นไป ความอยากใหญ่ ใหญ่ขนาดไหนมันไม่ใหญ่กว่าตัวเองหรอก คนเราจะมีอำนาจวาสนาขนาดไหนมันก็ต้องตายทุกคน คนเราจะสูงส่งขนาดไหนสุดท้ายแล้วมันไม่พ้นจากความตายไปได้

พอพ้นความตายไปได้นี่มันก็หมดโอกาสการสร้างคุณงามความดี แต่ใครที่สร้างคุณงามความดีไว้ ถึงที่สุดแล้วก็ต้องตาย แต่ตายไปพร้อมกับสมบัติที่สะสมไว้ที่ใจ กับคนตายไปแล้วว้าเหว่ ตายไปไม่มีสิ่งใดติดตัวไปเลย มันไม่มีสิ่งใดติดตัวไปมันก็ไปด้วยความว้าเหว่ ไปด้วยความทุกข์ยาก ทุกข์ของเขา ทุกข์ประจำโลกต้องเป็นแบบนั้น โลกเป็นความทุกข์อย่างนั้นตลอดไป แล้วมันก็ไม่เข้าใจ แบกหามความทุกข์กันไปตลอดไม่มีที่สิ้นสุด

แต่หัวใจของเราผู้ที่ปฏิบัติผู้บริหารใจ ผู้ศึกษาใจ ศึกษาเข้ามาแล้วมันสิ้นสุด มันจบกระบวนการ กิเลสหลุดออกไปจากใจเป็นชั้นเป็นตอนขึ้นมาแล้วมันไม่ต้องไปเกิดไปตายอีก แล้วมันก็แสวงหาความสุข สิ่งที่มีขึ้นมาเราแสวงหาขึ้นมาน่ะเป็นภาระรับผิดชอบ ชีวิตนี้ก็เหมือนกัน การเกิดนี้กิเลสพาเกิด กรรมพาเกิด เกิดขึ้นมาแล้วเราต้องรักษาชีวิตนี้ ต้องรักษาเพื่อดำรงชีวิตไว้เพราะเราก็ไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นแบบใด รักษาปัจจุบันนี้ไว้ให้ดีตลอดไป

มันรักษาขนาดไหนมันก็ต้องชำรุดทรุดโทรมไป ร่างกายนี้ต้องชำรุดทรุดโทรมไปโดยธรรมชาติของมัน รักษาขนาดไหนมันก็ต้องเป็นไปตามอำนาจของเขา นี่ถ้าเป็นอำนาจของเขาแล้วเรามีอะไรเป็นที่พึ่งล่ะ? มันถึงบอกว่า มันไม่มีสิ่งใดเป็นที่พึ่งเลย พอหมุนหาแล้วนี่มันเป็นเครื่องอยู่อาศัยชั่วคราว ๆ พึ่งได้ชั่วคราว ถึงจริงตามสมมุติ ชีวิตนี้มีความประสบความสำเร็จก็ประสบความสำเร็จของเขา เวลาเราทุกข์ยากขึ้นมานี่เราก็มีความทุกข์ของเรา

ถ้าเราทำเพื่อเรานี่ให้มันประสบความสำเร็จของเรา ใจของเราประสบความสำเร็จเข้ามา มันมีสิ่งที่ว่าเป็นความอุ่นใจไง บุญกุศลคือความอุ่นใจ ในครอบครัวของเรามีความสุขนั้นคือบุญกุศลของเรา ถ้าบุญกุศลในครอบครัวมีความสุข มันมีความสุขในบ้านของเรา ถ้าในบ้านของเรายังไม่มีความสุขเลย เราจะไปหาที่ไหน ในบ้านของเราต้องมีความสุขก่อน แล้วในหัวใจของเรานี่มันไม่ว้าเหว่ มันมีที่พึ่งของเรา ในหัวใจเรามันก็เหมือนบ้านของเรา

ย้อนกลับมาเราก็ต้องเข้าบ้านของเรา ย้อนกลับมาจากในบ้านของเรา ก็ในหัวใจของแต่ละดวงใจ ในดวงใจของใจทุกดวงใจมีหลักการมีหลักเกณฑ์ของใจ ใจมีที่พึ่งไม่ว้าเหว่ มันมีความสุขนะ ทุกอย่างพร้อมหมดเลย นั่งอยู่บนกองเงินกองทองถ้าเรามีความทุกข์มันก็ทุกข์อยู่บนกองเงินกองทอง กองเงินกองทองนั้นไม่สามารถช่วยให้เรามีความสุขได้เลย มีสุขเรื่องสุขของใจนะ

แต่เรื่องของความสุขที่ว่าเรื่องของปัจจัย ๔ นี่เงินทองนี้เป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าเพราะมันซื้อได้หลาย ๆ อย่าง แต่ซื้อมรรคผลนิพพานไม่ได้ ซื้อหัวใจของคนบางคนไม่ได้ บางคนหัวใจเขามีคุณค่ามากกว่าเงินทองอันนั้น แล้วหัวใจของเรามันก็ต้องซื้อหัวใจของเราไม่ได้ ถ้าซื้อหัวใจเราไม่ได้ เขาเป็นหน้าที่เป็นสิ่งที่เราจะใช้จ่ายของเขา เราใช้จ่ายเขาไป ไม่ใช่ให้เขามีอำนาจเหนือเรา

ถ้าเราไม่มีอำนาจเหนือเรา มันจะไม่มีการบังคับเราได้ ถ้าไม่บังคับเราได้เราก็เป็นอิสระเข้ามา เราเป็นอิสระเข้ามาเป็นเปาะ ๆ ๆ เป็นเปาะจากสิ่งนั้นเข้ามา แล้วความเกิดความตายนี้เป็นอำนาจสูงสุด สิ่งใด ๆ นี้เป็นอำนาจสูงสุด เราก็ต้องอยู่ใต้อำนาจของพญามาร ต้องอยู่ใต้อำนาจของพญามัจจุราช เราต้องตายทั้งหมด

แต่ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติไปแล้วความตายนี้หลอกกัน แม้แต่ความตายนี้ก็ไม่มีอำนาจเหนือกับจิตดวงนั้น จิตดวงนั้นเห็นกิเลสตายไปแล้วมันจะไม่มีวันตายอีกเลย มันจะซับสมอยู่ที่ใจดวงนั้น เห็นสิ่งต่าง ๆ นี้เป็นสมมุติ การเกิดและการตายนี้หลอกกัน มันเกิดตายขึ้นมานี่มันเกิดตายสถานะต่าง ๆ แต่หัวใจมันไม่เคยตาย มันจะเห็นความไม่เคยตายตั้งแต่จิตมันสงบเข้ามา สัมผัสธรรมเข้ามา จะสงบตัวเข้ามา มันมีความสุขของมันในตัวของมันเอง มันเห็นว่าไม่มีใครสามารถหลอกใจดวงนั้นได้ ใจดวงที่ประพฤติปฏิบัติแล้วจะไม่มีสิ่งใด ๆ หลอกใจดวงนี้เลย

ถ้าไม่มีสิ่งใด ๆ หลอกใจดวงนี้ใจดวงนี้จะมีความสุขไหม เพราะมันไม่มีสิ่งที่ว่าต้องไปคาดหมายไปข้างหน้า สิ่งที่ไปข้างหน้าก็ไม่มีความหมาย เพราะใจดวงนี้มันเป็นปัจจุบันตลอด วันนี้ดีพรุ่งนี้ก็ดี วันนี้เราไม่เป็นหนี้ใคร วันนี้เรามีความสุขพอสมควร พรุ่งนี้มันก็เป็นสถานะอย่างนี้ ถ้าวันนี้เราเป็นหนี้ พรุ่งนี้มันก็เพิ่มหนี้มากขึ้น ๆ ไป นี่มันอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความเป็นจริงตลอดไป มันไม่คาดหมายไปอนาคต ไม่คาดหมายไปสิ่งต่าง ๆ

แต่มันจะไม่คาดหมายได้มันต้องชำระกิเลส ถ้าไม่ชำระกิเลส กิเลสนี้เป็นความคาดความหมายทั้งนั้น หวังไง ความหวัง เห็นไหม ตัณหาความทะยานอยาก สมุทัยอยู่ในหัวใจทุกดวงใจ ทุกดวงใจมีเรื่องของสมุทัย มีความหวังทั้งหมดเลย ความหวังถ้าเป็นหน้าที่การงาน เราก็ต้องทำของเราไป เป้าหมายโครงการนั้นเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนของการทำงานนั้นส่วนของทำงาน

เวลาทำงานต้องทำงาน เวลาเราหยุดเราต้องหยุดได้ เรามีความสุขเรามีความเข้าใจ เราจะหยุดการทำงานของใจไง เวลาทำงานของร่างกายนะ เช้าขึ้นมาเราก็ทำงาน กลางวันทำงาน กลางคืนพักก็พักได้ แต่กลางคืนพักไม่ได้นี่มันก็ทำให้สุขภาพใจมันเสีย เสียตรงนี้ เสียที่เราพักใจของเราไม่ได้เลย เราหยุดใจของเราไม่เป็น ถ้าหยุดใจของเราไม่เป็น เครื่องยนต์มันติดเครื่องขึ้นมานี่ถ้ามันไม่หยุดมันต้องพังแน่นอนเลย

แต่หัวใจของเราก็เป็นแบบนั้น แต่มันไม่พัง ใจนี้มันแปลกประหลาดมหัศจรรย์ตรงนี้ ทุกข์ขนาดไหนนะ ทุกข์จนเจียนเป็นเจียนตายขึ้นมานะ เดี๋ยวมันก็พอผ่อนหายใจได้ แล้วมันก็ทุกข์อีก เจียนเป็นเจียนตายอยู่อย่างนั้นตลอดไป แล้วมันไม่เคยพังไง มันอยู่ในหัวใจเรามันไม่เคยพัง มันพังไม่ได้เพราะมันเป็นสัจจะอันหนึ่ง มันเป็นธาตุรู้ สิ่งที่มันเป็นสสารอันหนึ่งจะไม่เคยพังเลย เรื่องของธาตุของใจ มันถึงได้หมุนไปหมุนมาอยู่ตลอดไป

นี่มันเป็นความจริงอย่างนั้น แล้วมีความทุกข์อย่างนั้น นี่ความสงบของใจถ้าเราทำความสงบของใจเข้ามามันจะผ่อนคลาย ผ่อนคลายให้ดับเครื่องได้ เครื่องไม่หมุนไปตามอำนาจของความคิด อำนาจของความคิดไม่มีกำลังจะฉุดลากอันนี้ไป เพราะความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นเครื่องอยู่อาศัย มันปล่อยวางสิ่งนั้นเข้ามา ปล่อยวางสิ่งที่มันแสวงหาเข้ามา สิ่งที่แรงดึงดูดมันก็น้อยลง ๆ

ทีนี้ในตัวมันเองมันก็ดิ้นรนในตัวมันเอง ทีนี้มันก็อาศัยคำบริกรรมพุทโธเข้าไป เพื่อให้ใจมันสงบเข้ามาให้ได้ นี่ตัดจากสิ่งที่ว่าเป็นรูป รส กลิ่น เสียงภายนอก ก็เป็นรูป รส กลิ่น เสียงภายในที่มันสะสมเข้ามาในหัวใจ แล้วเราใช้คำบริกรรมเข้ามา ใช้สติยับยั้งเข้าไป ๆ รั้งใจของตัวเองไว้ ถ้ารั้งใจของตัวเองไว้นี่เครื่องหยุดได้ เครื่องหยุดของมัน

พอเครื่องมันหยุดได้ มันก็มีความพอใจของมัน มีความพอใจมีความสุขของมัน เห็นไหมว่าจิตดวงนี้มีความสุขขนาดไหน ความสุขจากที่ว่าตัวมันเองมันก็หาความสุขได้ เราไม่เข้าใจเรื่องความสุขในหัวใจ เวลาเราหาที่พึ่งกัน หาที่พักผ่อนหย่อนใจกัน หาแต่ข้างนอก หาความสุข จิตมันสงบ เห็นไหม คนนอนทั้งคืนเลย นอนแล้วนอนเล่ามันก็ไม่อิ่มพอ

แต่ถ้าสติมันควบคุมใจเข้าไปจนมันหยุดเครื่องได้ มันมีความสดชื่นของใจ ใจนี้สดชื่นออกมาสมบูรณ์ในหัวใจ มันจะคิดสิ่งใดมันก็ปลอดโปร่งโล่งไปหมด พวกที่มีสมาธิขึ้นมาทำอะไรก็ไม่ผิดพลาด สิ่งที่การกระทำจะไม่ค่อยผิดพลาดเลย เพราะมันมีสติสัมปชัญญะควบคุมใจตัวเองอยู่

แต่ถ้าเราไม่มีสติสัมปชัญญะควบคุมใจตัวเอง ทำอะไรก็ผิดพลาด สิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมานี่มันผิดพลาดขึ้นมาจากหัวใจ หัวใจนี้มันไม่มีสติสัมปชัญญะ มันทำด้วยความประมาทพลั้งเผลอของมันไป มันเผลอมาจากภายใน ข้างนอกมันก็ต้องผิดพลาดไป ถ้าข้างในมันไม่เผลอ สติสัมปชัญญะมันพร้อมขึ้นมามันไม่เผลอ มันจะทำอะไรผิดพลาดไปมันจะไม่ผิดพลาดออกไปจากข้างนอก งานก็สมบูรณ์ขึ้นมา

สิ่งที่ว่าเราประพฤติปฏิบัติ เราทำความสงบกันแล้วจะเสียเวล่ำเวลา นั้นเป็นความคาดหมายของเขา แต่ถ้าทำความจริงขึ้นมาแล้วนี่มันจะสร้างสมขึ้นมาให้เรามีสติสัมปชัญญะ งานจะสมบูรณ์ ทุกอย่างจะสมบูรณ์ สมบูรณ์ออกไปจากใจ ถ้าใจนั้นสมบูรณ์ สมบูรณ์ด้วยความสงบของใจ ความเข้าใจใจนั้น แค่เรื่องงานของโลกนะ แล้วงานของธรรมล่ะ?

งานของธรรมคืองานการชำระกิเลส งานชำระที่พัฒนาสุขภาพของใจ สุขภาพของใจนี้มันมีเชื้อโรค สิ่งที่เป็นเชื้อโรคคืออวิชชา คือความไม่เข้าใจของมัน แล้วเราวิปัสสนาเข้าไปนี่ ยกขึ้นวิปัสสนา วิปัสสนาในสติปัฏฐาน ๔ ความเกาะเกี่ยวของใจ อาการของใจ ความคิดของใจ ใจมันคืออะไร? คือขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ มันรวมตัวขึ้นมามันถึงเป็นความคิดออกไป แยกแยะสิ่งนี้เข้าไป แยกแยะสิ่งนี้เข้ามา สิ่งนี้แยกแยะได้ แยกแยะด้วยปัญญา

แต่ไม่มีปัญญานี่มันไม่เห็น มันเป็นการคาดการหมาย การคิดการเดา การคาดการหมายว่าอารมณ์เป็นอย่างนั้น ความรู้สึกเป็นอย่างนั้น มันเป็นกำปั้นทุบดินไง จับอารมณ์ทั้งหมด จับความรู้สึกทั้งหมดว่าเป็นเรา แล้วแยกแยะสิ่งนั้น สิ่งนี้แยกออกไม่ได้เพราะมันมีอำนาจเหนือเรา ปัญญาแยกแยะออก แยกออกไปเป็นขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี่เห็นไหม แยกออกจากกัน ๆ มันก็เล็กลง ๆ

เพราะอะไร? เพราะอำนาจของปัญญาเข้าไปใคร่ครวญมัน มันจะมีเล็กลงให้สติปัญญาสามารถชำระแยกได้ พอแยกได้มันก็ปล่อยวางสิ่งนี้ได้ เห็นสิ่งนี้ตามความเป็นจริง ถ้าเห็นสิ่งนี้ตามความเป็นจริง เกิดดับขึ้นมา มันเกิดดับจากธรรมชาติของมัน ไม่ใช่เกิดดับพร้อมกับกิเลสอวิชชาที่สอดแทรกเข้าไปในความเกิดดับนั้น เพราะมันมีอวิชชาสอดแทรกเข้าไปในความเกิดดับนั้น เราถึงไม่สามารถปล่อยวางเรื่องหัวใจของเราได้เลย ไม่สามารถปล่อยวางได้มันก็มีความทุกข์ตลอดไป ทุกข์ตลอดไปนี่สุขภาพใจมันถึงไม่สมบูรณ์ขึ้นมา

ถ้าสมบูรณ์ขึ้นมามันต้องชำระเชื้อโรคคืออวิชชาความไม่เข้าใจของมันที่สอดแทรกเข้าไปในหัวใจทำใจให้ทุกข์ยากอยู่นี่ นั่นน่ะพัฒนาใจสมบูรณ์สมบูรณ์ตรงนี้ สมบูรณ์ตรงที่ว่ามันปลดเปลื้องความที่เป็นโรคเป็นภัยออกไปจากใจ มันสมบูรณ์เป็นชั้นเป็นตอนขึ้นไปจนถึงที่สุดแล้วสมบูรณ์เต็มที่ไม่มีการเกิดและการตายในใจดวงนั้น ใจดวงนั้นจะสมบูรณ์กับใจดวงนั้น ใจดวงนั้นเป็นประโยชน์กับเรา

นี่พัฒนากายพัฒนาใจ การศึกษาทางโลกศึกษาไป ศึกษาเพื่อความรู้เท่านั้น การศึกษาใจนี้สำคัญมาก ควรจะศึกษามาก ควรจะพัฒนา ควรจะพยายามค้นคว้าของเราเอง ถ้าเราค้นคว้าใจของเราเองได้ คนนั้นสมบูรณ์ สมบูรณ์เฉพาะบุคคลคนนั้น คนคนนั้นสมบูรณ์แล้วสมบูรณ์ไปหมด โลกนี้เป็นเรื่องของเขา เรื่องของเราสมบูรณ์นั้นทุกอย่างจบ ที่มันบกพร่อง ทางโลกก็บกพร่อง ใจก็บกพร่อง

แต่ถ้าใจเต็ม โลกบกพร่อง โลกนี้บกพร่องโดยธรรมชาติของมัน โลกนี้จะมีความบกพร่องโดยธรรมชาติ มันต้องเจริญแล้วเสื่อมไปโดยธรรมชาติของมัน แต่ใจสมบูรณ์แล้วพอตัว แล้วมันจะอยู่โดยสุขสมบูรณ์ในใจดวงนั้น นี้การพัฒนาใจสมบูรณ์กว่า เรียบร้อยกว่า ดีกว่าทุก ๆ อย่าง เอวัง